094-356-3998, 02-003-1349

ศัลยกรรมจมูก

เสริมจมูกที่สิดารัตน์ดียังไง

ศัลยกรรม ทำโดย ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยตรง

  • ใช้ซิลิโคนเกรดพรีเมี่ยมนิ่ม เท่านั้น
  • เหลาซิลิโคนแบบเคสต่อเคส
  • ปรับดีไซน์ทรงให้เข้ากับใบหน้า
  • ทำโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง
  • ดูแลให้คำปรึกษาทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด
  • ให้ดูทรงก่อนปิดเคส
  • ฟรี ตะไบฮัมพ์
  • ฟรี ยาทาน
  • ฟรี น้ำแข็ง ประคบเย็น
  • ฟรี ตัดไหม หลังทำ
  • ฟรี ประกัน เอียง ทะลุ อักเสบ สาเหตุที่เกิดจากแพทย์ 6 เดือน
  • ฟรี ปรึกษาคุณหมอก่อนทำ

เสริมจมูกมีกี่แบบ

การเสริมจมูกส่วนใหญ่ แพทย์จะทำการผ่าตัดเสริมจมูกที่แบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ

1. เสริมแบบเปิด (Open Rhinoplasty)

หรือที่เรียกว่า “เสริมจมูกแบบโอเพ่น”วิธีนี้ศัลยแพทย์สามารถเห็นโครงสร้างจมูกได้ทั้งหมด โดยศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณใต้ฐานจมูกและกรีดผ่าเป็นแนวดิ่งจนเห็นแกนจมูก แยกผิวหนังออกจากโครงสร้างของจมูก และทำการปรับแต่งโครงสร้างเดิมที่มีปัญหาก่อนการเสริมจมูก เหมาะสำหรับ คนไข้ที่ต้องการแก้ไขจมูก หรือคนไข้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกเดิม เช่น จมูกคดเบี้ยว มีฮัมพ์ จมูกสั้นเหมือนหมู การเสริมจมูกแบบโอเพ่นสามารถเสริมด้วยซิลิโคน ปรับโครงสร้างจมูก และรองปลายจมูกเพื่อป้องกันการทะลุได้ทั้งหมดในคราวเดียวกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศัลยแพทย์

2. เสริมแบบปิด (Closed Endonasal Rhinoplasty)

ว่างที่สันจมูกใต้เยื่อหุ้มกระดูกจมูกแล้วใส่แท่งซิลิโคนเข้าไปตามรอยแผลผ่าตัดพร้อมกับตกแต่งโครงสร้างภายในจมูกและปลายจมูก แผลเปิดนี้อาจเปิดข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ เหมาะสำหรับ คนไข้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกไม่มากนัก เป็นการเสริมด้วยซิลิโคนเพียงอย่างเดียว หรือร่วมกับการเสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู

วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก

ซิลิโคน

ซึ่งเป็นออกเป็น “ซิลิโคนมาตรฐานธรรมดา” ซิลิโคนจะมีลักษณะค่อนข้างแข็ง และ “ซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ” เนื้อซิลิโคนจะนิ่ม เนียน และมีความยืดหยุ่นได้ดีเป็นพิเศษ สามารถบิดไปมาได้ เนื่องจากโครงสร้างจมูกของคนเราไม่เหมือนกัน ถ้าจะเสริมจมูก ก็ต้องปรึกษาศัลยแพทย์ว่าคุณเหมาะกับซิลิโคนชนิดใด โดยทั่วไป ถ้าเป็นคนเนื้อจมูกบาง เนื้อจมูกน้อย จะเหมาะกับซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ ทำแล้วจะดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นแท่งหรือสันชัดเจน แต่ถ้าเนื้อจมูกหนา จะเหมาะกับซิลิโคนมาตรฐานธรรมดามากกว่า เพราะหากใช้ซิลิโคนที่นิ่มไป เนื้อจมูกที่หนาอาจรัดจนซิลิโคนบิดเอียงได้ในอนาคต ทั้งยังช่วยลดปัญหาการเห็นขอบสันของซิลิโคนได้อีกด้วย

ข้อดีของการใช้ซิลิโคน

ซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกนั้นเป็นชนิดที่ถูกผลิตมาเพื่อใช้ทางการแพทย์โดยเฉพาะ มีความปลอดภัย มีปฏิกิริยาต่อร่างกายคนเราน้อยมาก และร่างกายสามารถรับและห่อหุ้มแท่งซิลิโคนให้ยึดอยู่กับเนื้อเยื่อได้ดี ส่วนอายุการใช้งานของซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกจะอยู่ไปได้ตลอดชีวิต ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือแก้ไขใหม่ เว้นแต่ว่าเคยเสริมไปแล้วอยากจะทำการเปลี่ยนหรือแก้ทรงใหม่

เสริมจมูกพร้อมตัดปีกจมูก

โดยส่วนใหญ่แล้วการตัดปีกจมูกจะเป็นหัตถการที่สามารถทำควบคู่ไปกับการแก้ไขโครงสร้างจมูกต่างๆ หรือ การเสริมจมูก อาทิ การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน, การตอกฮัมพ์ (ส่วนกระดูกบริเวณสันจมูกที่นูนขึ้นมา), การยืดผนังกั้นจมูก (เพื่อยืดความยาวของปลายจมูก) รวมไปถึงการเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อ หรือกระดูกอ่อนของคนไข้เอง เช่น กระดูกอ่อนหลังหู, กระดูกอ่อนซี่โครง ฯลฯ หรือในกรณีที่มีสันจมูกหรือทรงจมูกที่สวยงามอยู่แล้ว แต่มีปัญหาเรื่องปีกจมูกบานเพียงอย่างเดียวก็สามารถเลือก “ตัดปีกจมูก” อย่างเดียวก็ได้ เพื่อให้จมูกได้รูปทรงที่สวยงาม มีมิติ และปีกจมูกที่ดูเรียวเล็ก

ขั้นตอนการตัดปีกจมูก

ในการผ่าตัดปีกจมูก ศัลยแพทย์จะให้ยานอนหลับชนิดที่มีฤทธิ์สั้นนำไปก่อน เพื่อให้ผู้มารับการรักษาคลายความวิตกกังวลและไม่รู้สึกเจ็บขณะฉีดยาชา จากนั้นศัลยแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณปีกจมูก เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้วจึงจะทำการผ่าตัด

  • ศัลยแพทย์จะตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินที่ปีกจมูกออก และจัดฐานปีกจมูกรวมทั้งกำหนดความกว้างของรูจมูกใหม่ ในกรณีที่ปีกจมูกไม่หนามาก ศัลยแพทย์อาจเย็บข้างในโดยไม่ตัดปีกจมูก หรือตัดเนื้อจมูกด้านข้างเพื่อลดความกว้างของฐานจมูกด้วยก็ได้
  • เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะเย็บปิดแผล โดยซ่อนรอยแผลไว้บริเวณขอบของปีกจมูก หลังทำศัลยแพทย์จะให้นอนพักประมาณ 1 ชั่วโมง จนกว่ายานอนหลับจะหมดฤทธิ์ จากนั้นจึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้

การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก

  • ควรงดทานยากลุ่มแอสไพริน หรือ ไอบิวโพรเฟน ที่มีผลต่อการฟกช้ำบวมจากเลือดครั่งหลังผ่าตัด
  • ควรงดทานอาหารเสริม น้ำมันตับปลา หรือวิตามินต่างๆ ที่มีผลต่อการไหลของเลือด(เลือดหยุดช้า)หลังผ่าตัด
  • งดน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
  • การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก
  • ในช่วง 24 – 48 ชม.แรก ให้ประคบด้วยความเย็น อาจใช้แผ่นเจลหรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบ หลังจากนั้นถ้ามีรอยฟกช้ำให้ใช้น้ำอุ่นประคบต่อ รวมทั้งนอนยกศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม
  • ใช้สบู่อ่อนล้างหน้าได้ในวันแรก แต่ต้องเบามือ ทำความสะอาดบริเวณแผลด้วยน้ำสะอาด โดยใช้ Cotton Bud จุ่มน้ำแล้วทำความสะอาดโดยรอบ
  • ในกรณีเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง ใช้ระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์ สามารถทำงานเบาๆ ได้ และหลีกเลี่ยงงานหนัก เช่น ยกของหนัก ประมาณ 1 เดือน

สิ่งที่คนเสริมจมูกต้องระมัดระวังในช่วงที่จมูกยังไม่เข้าที่ดี คือ การโดนกระแทก เนื่องจากวัสดุที่ใช้เสริมอย่างแท่งซิลิโคนหรือกระดูกอ่อนยังไม่ถูกเนื้อจมูกห่อหุ้มจนแน่นพอรับแรงกระแทกแรงๆ ได้ ต้องใช้เวลาประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ ขึ้นไปถึงจะเริ่มรับแรงกระแทกได้ ถ้าจะให้มั่นใจก็ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป จึงจะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ จับและสัมผัสจมูกได้

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล